Mahathir MohamadThis is a Malay nam

Mahathir Mohamad
This is a Malay name; the name Mohamad is a patronymic, not a family name, and the person should be referred to by the given name, Mahathir. The Arabic word "bin" ("b.") or "binti"/"binte" ("bt."/"bte."), if used, means "son of" or "daughter of" respectively.
Tun Dato' Seri Mahathir bin Mohamad (Jawi:محضير بن محمد; IPA: [maˈhaðɪr bɪn moˈhamad]; born 10 July 1925) is a Malaysian politician who was the fourth Prime Minister of Malaysia. He held the post for 22 years from 1981 to 2003, making him Malaysia's longest-serving Prime Minister. His political career spanned almost 40 years.

Born and raised in Alor Setar, Kedah, Mahathir excelled at school and became a medical doctor. He became active in the United Malays National Organisation (UMNO), Malaysia's largest political party, before entering Parliament in 1964. He served one term before losing his seat, subsequently falling out with the then Prime Minister,[1] Tunku Abdul Rahman and being expelled from UMNO. When Abdul Rahman resigned, Mahathir re-entered UMNO and Parliament, and was promoted to the Cabinet. By 1976 he had risen to Deputy Prime Minister, and in 1981 was sworn in as Prime Minister after the resignation of his predecessor, Hussein Onn.

During Mahathir's tenure as Prime Minister, Malaysia experienced a period of rapid modernisation and economic growth, and his government initiated a series of bold infrastructure projects. Mahathir was a dominant political figure, winning five consecutive general elections and fending off a series of rivals for the leadership of UMNO. However, his accumulation of power came at the expense of the independence of the judiciary and the traditional powers and privileges of Malaysia's royalty. He deployed the controversial Internal Security Act to detain activists, non-mainstream religious figures, and political opponents including the Deputy Prime Minister he fired in 1998, Anwar Ibrahim. Mahathir's record of curbing civil liberties and his antagonism towards western interests and economic policy made his relationships with the United States, United Kingdom and Australia, among others, difficult. As Prime Minister, he was an advocate of third-world development and a prominent international activist in support of the anti-apartheid movement in South Africa and the interests of Bosnians in the Balkans conflict of the 1990s.

He remains an active political figure after his retirement. He became a strident critic of his hand-picked successor, Abdullah Badawi in 2006 and later, Najib Razak in 2015.[2] His son, Mukhriz Mahathir, is the Chief Minister of Kedah.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Mahathir Mohamadนี่คือชื่อมาเลย์ ชื่อ Mohamad patronymic ไม่ชื่อครอบครัว และบุคคลที่ควรอ้างอิงตามชื่อ Mahathir คำว่า "ช่องเก็บ" ("b") หรือ "binti" / "binte" ("ราคา" / "bte "), ใช้ หมายถึง "ของ" ลูก "ของ" ตามลำดับทูน Dato ' เสรี Mahathir ช่อง Mohamad (ยาวี: محمدبنمحضير IPA: [ˈ haðɪr ma bɪn mo ˈหัมด์]; เกิด 10 1925 กุมภาพันธ์) เป็นนักการเมืองมาเลเซียที่สี่ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เขาจัดลงปี 22 จาก 1981 2003 ทำให้เขาหนึ่งของนายกรัฐมนตรีที่ให้บริการ อาชีพของเขาทางการเมืองมาเกือบ 40 ปีเกิด และเติบโตในอาลอร์เซตาร์ เคดาห์ Mahathir นนท์โรงเรียน และกลายเป็น หมอ เขากลายเป็นใช้งานอยู่ในสหรัฐเชื้อสายมลายูชาติองค์กร (UMNO) "ที่ใหญ่ที่สุดพรรคการเมือง ก่อนเข้ารัฐสภาในปี 1964 ของมาเลเซีย เขาระยะหนึ่งบริการก่อนที่จะสูญเสียของเขาที่นั่ง ตกออกมา ด้วยนั้นจะนำ [1] Tunku Abdul Rahman และถูกขับไล่ออกจาก UMNO เมื่อลาออกจาก ตำแหน่ง Mahathir ใหม่ผู้บริโภค UMNO และรัฐสภา Abdul Rahman และได้ส่งเสริมให้คณะรัฐมนตรี 1976 เขาจำกัดที่ risen จะรองนำ และในปี 1981 ที่สาบานในการเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากการลาออกของเขารุ่นก่อน Hussein อ่อระหว่างของ Mahathir ระยะ modernisation อย่างรวดเร็วและเติบโตทางเศรษฐกิจมีประสบการณ์อายุงานเป็น Preface มาเลเซีย และรัฐบาลของเขาเริ่มต้นที่ชุดของโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นตัวหนา Mahathir ได้ตัวเลขทางการเมืองหลัก ชนะการเลือกตั้งทั่วไปติดต่อกันห้า และ fending ปิดชุดคู่แข่งนำของ UMNO อย่างไรก็ตาม เขาสะสมพลังงานมาค่าใช้จ่ายความเป็นอิสระของตุลาการ และอำนาจดั้งเดิมและสิทธิ์ของราชวงศ์ของประเทศมาเลเซีย เขาใช้พ.ร.บ.รักษาความปลอดภัยภายในแย้งการนักเคลื่อนไหว ไม่ใช่กับตัวเลขทางศาสนา และการเมืองรู้สึกเบื่อ? รวม Preface รองเขายิงในปี 1998 อันวาอิบรอฮีม ความสัมพันธ์ของเขากับสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย หมู่คนอื่น ๆ ยากของ Mahathir บันทึกกำเนิดเสรีภาพและ antagonism สนใจตะวันตกและนโยบายเศรษฐกิจของเขาได้ เป็น Preface กำลังสนับสนุน EU พัฒนาโลกที่สาม และอาจเป็นกิจกรรมระหว่างประเทศโดดเด่นสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อต้านการถือผิวในประเทศแอฟริกาใต้และ Bosnians ในความสนใจของตัวเองของปี 1990เขายังคงรูปการเมืองการใช้หลังเกษียณของเขา เขากลายเป็นนักวิจารณ์คนหนึ่ง strident ของเขามือรับสืบ Najib ตุนใน 2015, Abdullah Badawi ในปี 2006 และในภายหลัง [2] บุตร Mukhriz Mahathir เป็นประธานรัฐมนตรีเคดาห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มหาเธร์โมฮัมหมัดนี้เป็นชื่อที่ชาวมาเลย์; ชื่อ Mohamad เป็นนามสกุลไม่ชื่อครอบครัวและบุคคลที่ควรจะเรียกตามชื่อที่กำหนดมหา คำภาษาอาหรับ "ถัง" ("ข.") หรือ "ลูกสาว" / "binte" ("ไมล์." / "Bte.") หากใช้หมายความว่า "บุตรชายของ" หรือ "ลูกสาวของ" ตามลำดับ.
Tun Dato ' เสรี Mahathir Mohamad ถัง (ยาวี: محضيربنمحمد; IPA: [mahaðɪrbɪn mohamad] เกิด 10 กรกฎาคม 1925) เป็นนักการเมืองมาเลเซียที่เป็นหนึ่งในสี่นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย เขาจัดส่งสำหรับ 22 ปี 1981-2003 ทำให้เขามาเลเซียนานที่สุดนายกรัฐมนตรี อาชีพทางการเมืองของเขาทอดเกือบ 40 ปี. เกิดและเติบโตในบึงกาฬ, การไทรบุรีเขาเก่งในโรงเรียนและกลายเป็นแพทย์ เขาก็ทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียองค์การแห่งชาติ (UMNO), มาเลเซียที่ใหญ่ที่สุดของพรรคการเมืองก่อนที่จะเข้ารัฐสภาในปี 1964 เขาทำหน้าที่ระยะหนึ่งก่อนที่จะสูญเสียที่นั่งของเขาต่อมาตกลงมาพร้อมกับนั้นนายกรัฐมนตรี [1] Tunku Abdul Rahman และเป็น ขับออกจากพรรค เมื่อเราะห์มานอับดุลลาออกของมหา UMNO และใหม่เข้ารัฐสภาและได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นคณะรัฐมนตรี 1976 โดยเขาได้เพิ่มขึ้นถึงรองนายกรัฐมนตรีและในปี 1981 ได้รับการสาบานว่าในฐานะนายกรัฐมนตรีหลังจากการลาออกของบรรพบุรุษของเขาฮุสเซนออนน์. ระหว่างการดำรงตำแหน่งมหาเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียมีประสบการณ์ระยะเวลาของความทันสมัยอย่างรวดเร็วและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและรัฐบาลของเขา เริ่มต้นชุดของโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นตัวหนา มหาเป็นนักการเมืองที่โดดเด่นชนะการเลือกตั้งทั่วไปห้าติดต่อกันและปัดป้องชุดของคู่แข่งในการเป็นผู้นำของ UMNO แต่การสะสมของพลังงานของเขามาที่ค่าใช้จ่ายของความเป็นอิสระของตุลาการและอำนาจแบบดั้งเดิมและสิทธิพิเศษของเจ้านายของมาเลเซีย เขานำไปใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในความขัดแย้งที่จะกักตัวกิจกรรมตัวเลขทางศาสนาที่ไม่สำคัญและฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองรวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีเขายิงในปี 1998 อันวาร์อิบราฮิม บันทึกของมหาเหนี่ยวรั้งเสรีภาพและความเป็นศัตรูของเขาต่อผลประโยชน์ของตะวันตกและนโยบายเศรษฐกิจทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียหมู่คนยาก ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีเขาเป็นผู้สนับสนุนของการพัฒนาที่สามของโลกและกิจกรรมระหว่างประเทศที่โดดเด่นในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้และผลประโยชน์ของ Bosnians ในความขัดแย้งในคาบสมุทรบอลข่านของปี 1990. เขายังคงเป็นนักการเมืองที่ใช้งานหลังจากที่เขา การเกษียณอายุ เขาได้กลายเป็นนักวิจารณ์พร่าของทายาทมือหยิบของเขาอับดุลลาห์บาดาวีในปี 2006 และต่อมานาจิบราซัคในปี 2015 [2] ลูกชายของเขา Mukhriz Mahathir เป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของรัฐซาบาห์